วันศุกร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2558

คอนโดสุดหรู ใจกลางกรุงเทพ Sync Nature Siam

คอนโดสุดหรู ใจกลางกรุงเทพ ในย่านสยามพารากอน


วันนี้เราจะพามาดูคอนโดมิเนียมใหม่ ทำเลใจกลางกรุงเทพมหานคร กับโครงการ  Sync Nature Siam (ซิงค์ เนเจอร์ สยาม)  โครงการนี้เป็นโครงการคอนโดใหม่ Low Rise 8 ชั้นที่ตั้งอยู่ในซอยเกษมสันต์ 3 ถนนพระราม 1 ห่างจาก รถไฟฟ้าสถานีสนามกีฬาแห่งชาติ 260 เมตรโดยประมาณ ซึ่งตรงข้ามสนามศุภชลาศัย, ใกล้ BTS สถานีสยาม สถานีที่เชื่อมต่อไปยังถนนสีลม และถนนสุขุมวิท ใกล้กับสยามพารากอน, สยามดิสคัฟเวอรี่, มาบุญครอง, สยามเซ็นเตอร์, พิพิธภัณฑ์บ้านจิมทอมป์สัน และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คาดว่าจะแล้วเสร็จช่วงกลางปี 2559 หรือปีหน้านี้ค่ะ กับราคาเริ่มต้นที่ 8.12 ล้านบาท ซึ่งรายละเอียดของโครงการจะเป็นอย่างไรนั้น ติดตามจากด้านล่างได้เลย

รายละเอียดของโครงการ

ชื่อโครงการ : ซิงค์ เนเจอร์ สยาม Sync Nature Siam
เจ้าของโครงการ : สายชลพัฒนา (SAICHOL PATANA CO.,LTD)
เนื้อที่ที่ดินโครงการ : 1-1-37.8 ไร่
ยูนิตต่อชั้นสูงสุด : 14 ยูนิต ที่ชั้น 3-6
พื้นที่ใช้สอยทั้งหมด : 44.60 – 153.8 ตารางเมตร
           1 Bedroom 44.60 – 58.08 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 8.12 ล้านบาท
           2 Bedrooms 65.47 – 84.13 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 11.86 ล้านบาท
           3 Bedrooms 91.32 – 130.75 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 17.81 ล้านบาท
           Duplex 94.38 – 153.88 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 17 ล้านบาท
ที่จอดรถ : 71 คัน ไม่รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 87% รวมจอดซ้อนคันแล้วจอดได้ 99 คันคิดเป็น 100%
ขนส่งสาธารณะ : รถไฟฟ้า BTS สนามกีฬาแห่งชาติ 260 เมตร
รถโดยสารที่ผ่าน : n/a
ที่ตั้ง : ซอยเกษมสันต์ 3 แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กทม. 10330
ราคาเริ่มต้น : 8.12 ล้านบาท หรือเฉลี่ยต่อ ตร.ม 180,000 บาทต่อตารางเมตร
กำหนดการ : เริ่มก่อสร้าง มี.ค. 2558
ปีที่สร้างเสร็จ : คาดว่าแล้วเสร็จ กลางปี 2559
สิ่งอำนวยความสะดวก :
– Lobby
– สระว่ายน้ำ
– ฟิตเนส
– ห้องสมุด
– สวนหย่อม
– สวนลอยฟ้า
– VDO Door Phone
– Access Card Control
– CCTV
– รปภ. 24 ชม.

เส้นทางการเดินทาง
โครงการ Sync Nature Siam ตั้งอยู่ในซอยเกษมสันต์ 3 ห่างจาก BTS สนามกีฬาแห่งชาติประมาณ 260 เมตรค่ะ ที่ตั้งโครงการอยู่ฝั่งขาเข้าของถนนพระราม 1  วิ่งไปทางแยกปทุมวัน สยาม ชิดลม เพลินจิต อโศก สีลม  ถ้าใครทำงานในเมืองโซนนี้ ขับรถจากโครงการไปก็สะดวกมากค่ะ เพราะก็อยู่ในโซนใจกลางเมืองด้วยกันอยู่แล้ว การวิ่งไปจุดต่างๆในย่าน CBD จริงๆก็ไม่ได้ห่างกันซักเท่าไหร่

สำหรับคนไม่ได้ใช้รถ  ด้วยระยะห่างประมาณ 450 เมตรจากโครงการถึงแยกปทุมวัน ก็คงจะบ่งบอกได้แล้วว่า โครงการนี้อยู่ในใจกลางกรุงเทพมหานครแค่ไหน และการที่อยู่ห่างจากสถานีสยามแค่เพียงสถานีเดียวก็ย่อมมีความแตกต่างกับคนที่ต้องนั่งรถไฟฟ้ามาจากแบริ่งเพื่อมาสยามแน่นอน ระยะเวลาที่ใช้มันต่างกันเกือบ 10 เท่า (3 นาทีกับครึ่งชั่วโมง) ทำให้การใช้ชีวิตอยู่แถวนี้ดูจะเป็นเรื่องง่ายเสียจริงๆ

สำหรับคนที่จะต้องเดินทางไปต่างประเทศหรือต้องไปสนามบินบ่อยๆ จะเดินทางไปต่อ Airport link ไปสุวรรณภูมิที่สถานีพญาไทก็ทำได้ง่ายดาย นั่ง BTS ไปลงสถานีพญาไทซึ่งอยู่ห่างออกไป 3 สถานีแล้วต่อ Airport link พญาไท ในชั่วโมงเร่งด่วนรถจะติดมากๆ เดินออกมาปากซอยแค่ 100 เมตรก็มีวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างพาหลบรถติดไปได้บ้าง หรือจะขึ้นเรือโดยสารคลองแสนแสบที่ท่าเรือสะพานหัวช้าง ออกไปเที่ยวย่านเก่าๆอย่างไปลงท่าเรือผ่านฟ้าลีลาศ หรือจะไปเปลี่ยนสายที่สายที่ท่าเรือประตูน้ำวิ่งไปทางทองหล่อหรือบางกะปิได้  ทำให้การคมนาคมในย่านสยามโดยไม่ใช้รถยนต์ส่วนตัว จะสะดวกกว่าการใช้รถในระยะใกล้ๆอย่างที่ยกตัวอย่างไปค่ะ ซึ่งก็เป็นเหตุผลหลักๆที่ย่านนี้มีโรงแรมเยอะ เพราะนอกจากจะใกล้ห้างสรรพสินค้าและแหล่งช้อปปิ้งมากมายแล้ว ความสะดวกสบายต่อการเดินทางก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้บรรดานักท่องเที่ยวต่างๆชอบมาพักที่โซนนี้ค่ะ


โครงการตั้งอยู่ใกล้สยาม ใกล้แยกปทุมวัน ซึ่งเป็นทำเลหายากที่ไม่ได้มีโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ขึ้นมาให้เห็นบ่อยนัก ส่วนใหญ่ย่านนี้จะเป็นโรงแรมมากกว่า พอมีโครงการใหม่ขึ้นมา ราคาส่วนใหญ่ก็อยู่ระดับ Luxury เหมือนๆกันกับ Sync Nature Siam นี้แทบจะทั้งหมดค่ะ เนื่องจากความโด่งดังของทำเลนี้นั่นเอง

จากที่ตั้งโครงการในซอยเกษมสันต์ 3 เราสามารถเดินออกจากห้องไปดูหอศิลป์กรุงเทพ BACC,ห้าง Tokyu, MBK เดินบน Sky walk ของ BTS สนามกีฬาข้ามแยกปทุมวันเชื่อมไปสถานีสยามได้เลย ข้ามไปก็จะเจอ สยามสแควร์, สยามดิส, สยามพารากอน, สยามเซ็นเตอร์, สยามสแควร์วันห้างเปิดใหม่ ได้อย่างสบายๆใครเรียนจุฬารีบไปเรียนนั่งมอเตอร์ไซค์หน้าปากซอยไป 5-10 นาทีถึงคณะได้ชิวๆ หรือจะเดินมาขึ้น BTS เที่ยว ห้างใหญ่ติด BTS ใกล้ๆให้ช้อปปิ้งก็มีเยอะ Terminal 21 ที่ BTS อโศก, Central Embassy, Central ชิดลม ที่ BTS เพลินจิต หรือจะไปหาอะไรทานที่ Emporium หรือห้างเปิดใหม่ Emquartier  และเดินเล่นที่สวนสาธารณะเบญจสิริ ก็ลง BTS พร้อมพงษ์ได้สบายๆค่ะ ถ้าอยากซื้อของสดเข้าบ้าน ไม่ไป Tokyu ก็จะมี Lotus อยู่ใกล้ๆ เดินไปซื้อของสดเข้าห้องได้สบายๆค่ะ เราไปดูภาพถ่ายการเดินทางกันต่อเลยค่ะ


แผนผังของตัวโครงการ


ชั้นแรกของอาคาร เข้าประตูมาจะเป็นส่วนของที่จอดรถ และยังมีชั้นใต้ดินอีก 1 ชั้นที่สามารถจอดรถได้อีก  จำนวนที่จอดรถประมาณ 71 คัน หรือ 87% ของจำนวนยูนิตไม่รวมจอดซ้อนคัน แต่ถ้ารวมจอดซ้อนคันก็จอดได้ 100% ค่ะ ทางเข้าอาคารติดถนนด้านหน้า ทางเดียวกับทางเข้ารถค่ะ โดยจะมีทางเท้าเพิ่มให้ด้านข้าง

ทางเข้า Lobby เป็นแบบ Double Height Lobby หรือ Lobby แบบผนังสูงค่ะ ผลที่ได้ก็คือตัวLobby ของโครงการก็จะดูโปร่งขึ้น โครงการมีลิฟต์ โดยสาร 2 ตัวค่ะ โดยโถงลิฟต์จะอยู่ถัดจาก lobby การเข้าสู่ตัวโถงลิฟต์จะเป็นระบบ Access Keycard ค่ะ

นอกจากนี้ชั้นล่างที่ Courtyard จะมีสระว่ายน้ำกลางแจ้ง ระบบเกลือ ขนาดประมาณขนาด 6.1 x 15.8 เมตร สระผู้ใหญ่ลึก 1.2 เมตร มีที่นั่งข้างสระ และมีห้องฟิตเนสวิวสระน้ำอยู่ข้างๆ  นอกจากนี้ชั้น 1 จะมีส่วนยูนิตที่พักอาศัยแบบ Duplex อยู่ค่ะ เป็นยูนิตที่มี 2 ชั้น อยู่ที่ชั้น 1 และชั้น 2

ชั้น 2 จะเป็นส่วนของที่พักอาศัยแล้วค่ะ จะมียูนิตที่พักอาศัยอยู่ 11 ยูนิตซึ่งความหนาแน่นจะต่ำกว่าชั้น 3 – 6 ที่มี 14 ยูนิตนะคะ  เนื่องจากมีส่วนของห้องสมุดและสวนชั้น 2 อยู่ แต่ทางเข้าห้องสมุดนี่จะเป็นบันไดขึ้นมาจาก Lobby ชั้น 1 ข้อดีของการอยู่ชั้นนี้ ความหนาแน่นยูนิตจะต่ำกว่าชั้นอื่นๆแล้ว คือการได้อยู่ใกล้บริเวณพื้นที่ส่วนกลางมากกว่าชั้นอื่นค่ะ และคนที่ไม่ชอบใช้ลิฟต์ก็สามารถใช้บันไดขึ้นลงได้สบายๆ เดินลงไปใช้สระว่ายน้ำ ห้องฟิตเนสได้ง่าย แต่ข้อเสียคือเสียงรบกวนจากชั้น 1 ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเสียงเด็กๆเล่นน้ำวันหยุด หรือเสียงรถเข้าออกจากถนน

ส่วนการเลือกห้อง ห้องฝั่งด้านนอกทั้ง 3 ด้านของอาคารหันหน้าออกไปชนวิวตึกหมดนะคะ ที่ชนเต็มทั้ง 8 ชั้นเลยจะเป็นโซนด้านหลัง( ยูนิต 2/1 – 2/5) เพราะหันไปเจอตึก 8 ชั้น เรื่องทิศลมทิศแดด ก็ไม่ได้เจอลมเจอแดดเต็มๆมากนักเพราะถูกตึกรอบๆบล๊อคไปซะเยอะค่ะ แต่แสงอาทิตย์ในประเทศไทยจะวิ่งอ้อมใต้ และไปร้อนช่วงบ่ายคือโซนทิศตะวันตก ซึ่งยูนิตที่หันหน้าเข้าหา Courtyard  (ยูนิต 2/8 – 2/9) ก็จะเจอแดดบ่ายที่ร้อนกว่าช่วงอื่นๆ ส่วนยูนิตห้องที่หันไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ (1/1 – 1/2, 2/1)และตะวันตกเฉียงใต้(2/6-2/7)ก็จะได้รับลมดีกว่าทิศอื่นๆ

ส่วนชั้น 3-6  การจัดผังคล้ายๆกันกับชั้นอื่นๆ แต่ต่างกันที่ความหนาแน่นของยูนิตจะเยอะกว่า คือ 14 ยูนิตต่อชั้น  ทิศทางแดดและลมไม่ต่างกันเท่าไหร่ แต่เพราะเป็นชั้นที่คนส่วนใหญ่คงใช้ลิฟต์เป็นหลักกันแล้ว ลิฟต์โดยสาร 2 ตัวและบันไดขึ้นลงจะอยู่ทางขวามือใกล้กับประตูห้อง 3/8 – 3/9 และผนังห้อง 1/2 ที่สุด  ห้องที่อยู่ติดลิฟต์และโถงบันไดจะเจอเสียงรบกวนจากลิฟต์และคนเยอะกว่าห้องอื่นหน่อยค่ะ แต่ถ้ามองในแง่ดีก็ขึ้นลงสะดวก เดินนิดเดียวถึง ซึ่งถ้าเทียบกับห้อง 3/1-3/4,3/14 ก็ต้องเดินไกลกว่ากันอยู่พอสมควร แต่ก็ได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่าและจะว่าไปมันก็ไม่ได้ไกลกว่ากันมากเท่าไหร่ ห้องที่ไกลลิฟต์ที่สุดจะเป็นห้อง 3/1 ค่ะ ส่วนตัว corridor หรือโถงทางเดินแจกแต่ละยูนิตกว้างประมาณ 1.8 เมตร เดาว่าโถงทางเดินน่าจะต้องเปิดไฟทั้งกลางวันกลางคืนนะ เพราะช่องแสงธรรมชาติที่โถงทางเดินไม่น่าจะเข้าไปถึงทุกส่วนได้


ชั้น 7 และ 8 จะมีจำนวนความหนาแน่นยูนิตต่ำกว่าชั้นอื่นๆค่ะ คือมี 7 ยูนิตต่อชั้นเท่านั้น เพราะจะจัดเฉพาะห้องใหญ่ๆแบบ 3 ห้องนอนเอาไว้เท่านั้น ทำให้ 2 ชั้นนี้จะมีความเงียบสงบและเป็นส่วนตัวมากกว่าชั้นอื่นๆนั่นเอง


ชั้นดาดฟ้าเป็นพื้นที่สวนส่วนกลางค่ะ จากผังจะเห็นว่าจัดเป็นสวนปูสนามหญ้าปลูกต้นไม้มาให้ แต่ไม่มีที่นั่งหรือศาลาเอาไว้ให้นะคะ เหมือนเป็นที่ขึ้นมาเดินเล่นรับลมมากกว่า

ภาพจำลองบรรยากาศทางเข้าโครงการค่ะ กำแพงรั้วโครงการเป็นกำแพงหินหุ้มด้วยตาข่ายลวดเหล็ก ดีไซน์ตามคอนเซ็ปหลักก็คือ Sync Nature หรือการเชื่อมกับธรรมชาติ โดยส่วนกำแพงก็จะใช้วัสดุที่มีรูปทรงหรือผิวสัมผัสแบบธรรมชาติมาจัดวางในสไตล์ Modern contemporary

แบบห้อง

BED1


ห้องตัวอย่างของโครงการเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ มีขนาด 44.6 – 58.9 ตารางเมตร เป็นห้องหน้ากว้าง 7.8 เมตร







BED2

ห้องแบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ มีขนาด 65.4 – 94.3 ตารางเมตร หน้ากว้าง 11.5 เมตร








BED3

ห้องแบบ 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ขนาด 91.3 – 153.8 ตารางเมตร หน้ากว้าง 19.5 เมตร ในส่วนห้องนั่งเล่นค่อนข้างกว้าง มีระเบียงอยู่ 3 ที่







ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 7 April 2015
  • 1 Bedroom  ชั้น 2  เนื้อที่ 58.08 ตร.ม. ราคา 10,527,581 บาท หรือ 181,260 บาท/ตร.ม. ค่าทำสัญญา 526,379 บาท
  • 1 Bedroom  ชั้น 5  เนื้อที่ 45.18 ตร.ม. ราคา 8,620,344 บาท หรือ 190,800 บาท/ตร.ม. ค่าทำสัญญา 431,017 บาท
  • 1 Bedroom  ชั้น 4  เนื้อที่ 58.08 ตร.ม. ราคา 11,020,099 บาท หรือ 189,740 บาท/ตร.ม. ค่าทำสัญญา 551,005 บาท
  • 2 Bedrooms  ชั้น 6  เนื้อที่ 75.81 ตร.ม. ราคา 14,705,624 บาท หรือ 193,380 บาท/ตร.ม. ค่าทำสัญญา 735,281 บาท
  • 3 Bedrooms  ชั้น 7  เนื้อที่ 91.32 ตร.ม. ราคา 17,811,053 บาท หรือ 195,040 บาท/ตร.ม. ค่าทำสัญญา 890,553 บาท
  • Duplex ชั้น 1-2 เนื้อที่ 94.38 ตร.ม. ราคา 17,007,276 บาท หรือ 180,200 บาท/ตร.ม. ค่าทำสัญญา 850,364 บาท
  • Fully Fitted
  • จอง 50,000 บาท
  • ทำสัญญา 5% ของราคาห้อง
  • ค่าส่วนกลาง 50 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน

รูปภาพเพิ่มเติมในโครงการ




ขอขอบคุณข้อมูลดีๆและรูปภาพจาก : thinkofliving.com & syncnature-siam.com

วันพฤหัสบดีที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2558

13 วิธีการจัดห้องนอนขนาดเล็ก

13 วิธีจัดห้องนอนของคอนโดขนาดเล็ก

ถึงทุกวันนี้จะคอนโดราคาถูกมีพื้นที่น้อยก็เถอะ แต่ถ้าหากจัดถูกหลักแล้วห้องแคบก็ดูกว้างได้เช่นกันค่ะ ตกแต่งห้องนอนเล็ก ๆ อย่างไรให้สวยห้องนอนในที่พักอาศัยแบบ City Life ของคนเมืองยุคนี้มักจะมีพื้นที่น้อย แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเราจะมีความสุขอยู่ในห้องนอนเล็กๆของเราไม่ได้นะคะ
ห้องนอนในที่พักอาศัยแบบ City Life ของคนเมืองยุคนี้มักจะมีพื้นที่น้อย แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเราจะมีความสุขอยู่ในห้องนอนเล็กๆของเราไม่ได้นะคะ วันนี้จึงนำเทคนิคที่น่าสนใจ 13 วิธีการตกแต่งห้องนอนเล็กๆ ของคอนโดมิเนียมมาฝากเพื่อนๆ กันค่ะ

1. จัดเตียงให้เด่น : เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เพียงชิ้นเดียว คุณอาจนำเทคนิคนี้ไปใช้ได้ง่ายๆ โดยการออกแบบลวดลายกราฟฟิกในสไตล์ของคุณเอง โดยนำมาเพ้นท์หรือใช้เทคนิคสเตนซิลลงบนไม้ medium density fiberboard (MDF) ที่หาซื้อได้ทั่วไป หรือถ้าใครงบน้อยหรืออยากประหยัดเวลาก็อาจเลือกซื้อกระดาษหรือวอลเปเปอร์ลายกราฟฟิกเก๋ๆมาปิดหัวเตียงได้เลย ค่ะ ที่สำคัญที่สุดอย่าลืมเลือกปลอกหมอนสีสันสดใสและลวดลายโดดเด่นมาตกแต่งให้เข้าชุดกันด้วยนะคะ
2. ลวงตาให้ห้องดูสูง : ผ้าคลุมที่ทิ้งตัวลงมาเหนือหัวเตียง ช่วยพรางให้ฝ้าเพดานดูสูงขึ้น การเพิ่มเส้นตั้งให้กับผนังห้องจะช่วยทำให้เรารู้สึกว่าฝ้าเพดานของห้องนั้นสูงขึ้นได้ คุณอาจใช้วอลเปเปอร์ลายทางแคบๆ สีโทนเย็น ผ้าม่านที่ให้ริ้วเป็นเส้นแนวตั้ง หรือลวดลายของผ้าที่หุ้มประดับเครื่องเรือนเป็นลายทางลง นอกจากนี้การเลือกใช้วัสดุที่เบาบางอย่างผ้าฝ้าย คู่สีที่สว่างเย็นคือฟ้า-เหลือง และยังช่วยสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นโรแมนติกภายในห้องนอนได้อีกด้วย

3. การเลือกใช้เตียงนอน : การเลือกใช้สีที่ทาผนัง และเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องก็ทำให้รู้สึกว่าห้องกว้างขึ้นได้หากว่าห้องของคุณเป็นห้องที่มีเพดานต่ำ เช่นห้องที่อยู่ใต้หลังคาหรือใต้บันไดที่มีฝ้าเพดานเฉียงอย่างในภาพ เทคนิดที่อาจช่วยให้มุมมองห้องดูกว้างขวางขึ้นได้คือการเลือกใช้สีอ่อนทาผนังห้อง และซ่อนขอบห้องหรือมุมห้องไม่ให้มองเห็นได้ชัด เช่นเฟอร์นิเจอร์เข้ามุมขนาดเล็ก การเลือกใช้สีของชุดเครื่องนอนที่มีสีสันสดใสและเป็นลายขวางขนาดใหญ่ก็จะทำให้ห้องดูมีชีวิตชีวาและลดความคับแคบอึดอัดลง นอกจากนี้ การเลือกใช้หัวเตียงที่มีขนาดเล็ก รูปแบบเรียบง่ายและพื้นผิวมันวาวก็เป็นอีกหนึ่งเทคนิคสำคัญที่ทำให้ฝ้าเพดานของห้องดูสูงกว่าความเป็นจริงได้ ดูเพิ่มเติม Noble Gable Watcharapol
4. จัดเครื่องเรือนไว้ระหว่างกลาง : จัดวางเครื่องเรือนไว้ติดหน้าต่าง อยู่ระหว่างกลางของบานหน้าต่างทั้งหมด โดยปกติแล้วการจัดวางเครื่องเรือนหรือเตียงนอนไว้ติดหน้าต่างไม่ค่อยเป็นที่นิยมนักเนื่องจากเครื่องเรือนจะบังแสงและทิวทัศน์จากภายนอก จึงนิยมวางเครื่องเรือนติดผนังมากกว่า แต่สำหรับในห้องขนาดเล็กที่มีพื้นที่จำกัด การวางเตียงติดผนังจะช่วยสร้างจุดสนใจของห้องได้เป็นอย่างดี เนื่องจากสามารถใช้ประโยชน์จากแสงภายนอกเพื่อสร้างบรรยากาศธรรมชาติ และการตกแต่งบานหน้าต่างด้วยผ้าม่านก็สามารถลวงให้เรารู้สึกว่าผ้าม่านนั้นเป็นผ้าม่านของเตียงได้ โดยการเลือกใช้สีของผ้าม่านและเครื่องนอนเป็นคู่สีเดียวกัน และเสือกใช้เนื้อผ้าที่เบาบาง

5. อ่อนโยนและเบาบาง : เลือกใช้สีอ่อนหรือสีเทาสีอมเขียวทั้งบนเตียงและผนังรอบห้อง การเลือกใช้สีอ่อนรอบห้อง รวมถึงวัสดุที่ดูโปร่งเช่น ผ้าม่านบางสีขาวรวมถึงเครื่องเรือนโปร่งที่รูปทรงไม่ทึบตัน จะทำให้เกิดความรู้สึกว่าห้องนั้นมีอากาศถ่ายเท โปร่งโล่งสบายและน่าอยู่

6. ลูกเล่นที่หัวเตียง ห้องนอนสีเขียว : จัดหัวเตียงให้ดึงดูดสายตาจากผนังห้องที่แคบ หากห้องของคุณมีห้องที่แคบยาว ขาดผนังที่เหมาะสมกับการวางเตียง ไม่รู้จะวางเตียงผนังด้านไหน ลองนำเทคนิคนี้ไปสร้างผนังหัวเตียงของคุณขึ้นเองดูค่ะ ลองใช้วัสดุที่ดูอ่อนนุ่มสร้างเป็นฉากกั้นขึ้นมาคล้ายกับเป็นการใช้หัวเตียงขนาดใหญ่ นอกจากจะดูเก๋แล้วเรายังสามารถใช้ประโยชน์จากฉากนี้ ในการกั้นแบ่งพื้นที่ภายในห้องนอนได้อีกด้วย บริเวณหลังฉากอาจจัดเป็นส่วนแต่งตัวของคุณ เชื่อมต่อพื่นที่ทั้งสองส่วนด้วยเก้าอี้บุเบาะสบายน่านั่ง
7. เส้นสายของเครื่องเรือน :  เลือกใช้เครื่องเรือนที่มีผิวมันและไม่บดบังสายตามากนัก อาจทำได้โดยการนำสายตาด้วยเตียงที่มีโครงประดับ เส้นสายของโครงโลหะจะช่วยทำให้ห้องดูเพดานสูงและดูเบาขึ้นค่ะ

8. เส้นแนวตั้งโดดเด่น : ตกแต่งภายในห้องนอนโดยใช้ลวดลายทางแนวตั้งที่มีสัดส่วนขนาดใหญ่เพื่อนำสายตาจากผนังขึ้นไปสู่ฝ้าเพดาน คุณอาจเลือกใช้วอลเปเปอร์ที่มีลายทางแนวตั้งขนาดใหญ่ และม่านหนักที่สร้างลอนขนาดใหญ่เป็นจุดเด่นของห้อง เป็นเทคนิคพื้นฐานที่นิยมใช้กันโดยทั่วไปในการตกแต่งพื้นที่ขนาดเล็กค่ะ  หากว่าวางเตียงสองชั้นจะช่วยประหยัดพื้นที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย

9. เน้นหมอนอิง : ส่งเสริมความน่าสนใจของสถาบัตยกรรมให้โดดเด่น ในห้องนอนเรียบๆในจุดที่มีเหลี่ยมมุมของสถาปัตยกรรม เช่นมุมของส่วนยื่นอาคารหรือหลังคา คุณสามารถส่งเสริมจุดนั้นให้โดดเด่นขึ้นได้ โดยการตกแต่งห้องด้วยโทนสีเรียบๆ แต่สร้างจุดสนใจเฉพาะหัวเตียงให้มีสีสันสดใส โดยให้สีของหมอนอิงเป็นตัวกระตุ้น

10. แทรกระหว่างช่องว่าง : ใช้เครื่องเรือนพับได้ในการแต่งห้องนอนขนาดเล็ก ในภาพเป็นตัวอย่างการประกอบกันอย่างน่าสนใจของเครื่องเรือนแบบต่างๆที่ช่วยประหยัดพื้นที่ ตั้งนอนที่สามารถพับเก็บเป็นโซฟานุ่มๆ หรือตู้ที่สามารถดึงชั้นออกมาเป็นโต๊ะข้างโซฟาได้ค่ะ ใช้คู่สีที่สว่าง นุ่มนวลและเป็นธรรมชาติเฉพาะบางจุด เพื่อจะได้ไม่ดูอึดอัดจนเกินไปค่ะ

11. ระนาบผนังที่สวยงาม : ตกแต่งผนังด้วยวัสดุต่างๆ ลองใช้วัสดุสวยๆ เช่น ลูกปัด ในการตกแต่งผนัง เรียงลูกปัดในแนวตั้ง สร้างให้เกิดผิวสัมผัสที่น่าสนใจและสร้างบรรยากาศบ้านอันอบอุ่น ประดับด้วยโคมไฟคลาสสิกก้านสูง ก็ช่วยนำสายตาให้ห้องดูสูงเช่นกัน หรือติดภาพผนังให้ดูมีเรื่องราว เช่นภาพสวนแนวตั้งนี้ ก็สร้างบรรยากาสดีได้เช่นกันนะคะ ช่วยให้การแต่งห้องนอนดูสวยขึ้น

12. ผนังลึก : สร้างมิติความลึกให้กับผนัง เริ่มจากทาสีผนังด้านหัวเตียงโดยเลือกใช้สีเข้ม เพื่อให้รู้สึกถึงความลึก ขนาบด้วยผนังและฝ้าเพดานสีขาวเพื่อเสริมให้ผนังสีเข้มดูลึกขึ้นอย่างชัดเจน เชื่อมโยงกันด้วยผ้าม่านและผ้าบุหัวเตียงที่ใช้คู่สีของผนังทั้งสอง จากนั้นเลือกใช้อีกคู่สีหนึ่งที่โดดเด่น แต่ก็สามารถเข้ากันได้กับสีผนัง มาเป็นผ้าปลอกหมอนอิงและผ้าประดับต่างๆ
13. สะท้อนมุมมอง :ใช้บานกระจกขนาดใหญ่สะท้อนมุมมองของห้องใหญ่กว้างขึ้น ควรเลือกใช้บานกระจกที่มีความสูงมาพิงผนัง อย่าลืมดูว่าบานกรอบของกระจกนั้นควรมีสีสันและวัสดุที่เหมาะสมกับเครื่องเรือนอื่นๆด้วยนะคะ กระจกจะช่วยสะท้อนมุมมองของห้องให้กว้างขึ้นอีก และจะดูสมจริงมากขึ้นหากกระจกได้สะท้อนแสงธรรมชาติจากหน้าต่างหรือโคมไฟภายในห้อง คราวนี้รู้หลักง่ายๆกันแล้วก็มาเปลี่ยนห้องนอนเล็กให้สวยสมใจกันเถอะค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : forfur.com

วันพุธที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2558

โครงการคอนโดใหม่ The Signature สุดหรูใจกลางกรุงเทพ

โครงการคอนโดมิเนียมใหม่ สุดหรูใจกลางกรุงเทพ

The Signature by URBANO

The Signature by URBANO เป็นโครงการคอนโดใหม่ตัวล่าสุดของพฤกษาที่ติดสถานีรถไฟฟ้า BTS สะพานควาย (N7) ต่อจาก The Editor (ชื่อเดิม Edition) ที่ได้เปิดตัวและขายออกหมดไปแล้วในช่วงปี 2013 … ต่อมาปี 2014 ทางพฤกษาก็ได้ต่อยอดทำเลนี้โดยส่ง ดิ ซิกเนเจอร์ บาย เออร์บาโน่ มาในขนาดห้องที่มีความแตกต่าง หวังกวาดลูกค้าที่ต้องการห้องใหญ่ขนาด โดยจัดให้ห้อง 2 ห้องนอนนั้นมีจำนวนมากที่สุด แตกต่างจาก The Editor ซึ่งมียูนิต 1 ห้องนอนเป็นจำนวนมาก

ตัวโครงการนั้นอยู่ติดกับทางลง BTS พอดีครับ ผมทำแผนที่มาให้ดูกันคร่าวๆก่อน  พื้นที่รอบๆในโซนสะพานควายนั้นเป็นชุมชนที่พลุกพล่านครับ  บริเวณพื้นที่ในแนวทางเดินรถไฟฟ้าช่วงนี้ก็จะเป็นตึกแถวอาคารพาณิชย์เป็นส่วนมาก  คอนโดบ้านใกล้เรือนเคียงก็มีหลายโครงการทีเดียว  ทั้ง IDEO ของ Ananda, Onyx by Sansiri  หรือจะเป็นพื้นที่กำลังสร้างอยู่ของพฤกษาเหมือนกันอย่าง The Editor และที่เพิ่งเปิดตัวไปหมาดๆอย่าง M Jatujak ของทางเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์นอกจากนี้โครงการอยู่เยื้องๆกับโรงพยาบาลเปาโล และบิ๊กซี สะพานควาย ครับ

รายละเอียดโครงการ
ชื่อโครงการ : เดอะ ซิกเนเจอร์ บาย เออร์บาโน่ The Signature by Urbano
เจ้าของโครงการ : พฤกษา Pruksa
ลักษณะห้องและขนาดห้อง :
             – 1 Bedroom : 34-37 ตร.ม.
             – 2 Bedrooms : 48-55 ตร.ม.
             – 3 Bedrooms : 85 ตร.ม.
เนื้อที่ทั้งหมด : 2-1-34 ไร่
จำนวนตึก : 1 อาคาร
จำนวนชั้น : 31 ชั้น
จำนวนห้อง : 253 ยูนิต
ที่จอดรถทั้งหมด : ประมาณ 70% ไม่รวมจอดซ้อนคัน
โซน : เขตพญาไท
ขนส่งสาธารณะ : รถไฟฟ้า BTS สะพานควาย
รถโดยสารที่ผ่าน : รถเมล์สาย 3, 26, 29, 34, 39, 59, 63, 112, 502, 503, 510, 513, 3, 26, 29, 34, 39, 59, 63, 112, 502, 503, 510, 513.
ที่ตั้ง : ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม.
กำหนดการ : เริ่มก่อสร้างปลายปี 2557
ปีที่สร้างเสร็จ : คาดว่าจะแล้วเสร็จ 2559
มูลค่าราคาเริ่มต้น : 4.9 - 7.5 ล้านบาท
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม :  150,000 บาท
ค่าส่วนกลางและกองทุน :
– ค่าส่วนกลาง 65 บาท/ตร.ม.
– ค่ากองทุน 600 บาท/ตร.ม จ่ายครั้งเดียว
สถานที่สำคัญใกล้เคียง :
  1. รถไฟฟ้า BTS สะพานควาย
2. บิ๊กซี
3. โรงพยาบาลเปาโลเมโมเรีย
4. สวนจตุจักร
  5. เซ็นทรัล ลาดพร้าว
สิ่งอำนวยความสะดวก :
– Residents Lobby
– สระว่ายน้ำ + พื้นที่พักผ่อนริทสระ
– Cubic Hub
– ฟิตเนส
– Sky Lounge
– Roof Top Garden
– Access Card Control
– ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.


โครงการคอนโด The Signature by Urbano เป็นคอนโดมิเนียมโครงการที่2 ของซีรี่ย์ Urbano จากพฤกษาครับ ซึ่งโครงการแรกนั่นคือ Urbano Absolute สาทร-ตากสิน  จุดที่น่าสังเกตอย่างนึงของโครงการ The Signature ก็คือการวางประเภทของยูนิตขายในโครงการครับ  โดยปกติคอนโดตามแนวรถไฟฟ้าทั่วๆไปสัดส่วนของยูนิตขายส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นแบบ 1 ห้องนอนที่จะมีมากที่สุดในโครงการ  แต่ The Signature เลือกทำโดยจะเน้นไปที่ห้องแบบ 2 ห้องนอนเป็นหลัก  ห้องแบบ 1 ห้องนอนในโครงการมีไม่เยอะ  ซึ่งวันที่แวะไปดูก็จองกันหมดไปเกือบหมดแล้วด้วย  ซึ่งแน่นอนว่าการเน้นไปที่แบบ 2 ห้องนอนเป็นหลัก ทำให้ราคายูนิตเริ่มต้นนั้นดูจะเปิดตัวอัพมากกว่าโครงการเพื่อนบ้านที่ขายไปหมดแล้วอย่าง The Editor (แต่ราคาเฉลี่ยก็ไม่ต่างกันมาก) Facilities ที่ให้มาจะอยู่บริเวณชั้น 8, 9 และชั้น 31  ที่ชั้น 8 จะมีสระว่ายน้ำขนาด 8 x 20 เมตร ที่ชั้น 9 จะมี Cubic Multi-Purposed Room ส่วนที่ชั้น 31 ก็จะมี Sky Lounge และ Gym  ครับ


สรุปโครงการ 
– ทำเลที่ตั้งโครงการ The Signature by Urbano เดอะ ซิกเนเจอร์ บาย เออร์บาโน่ ตั้งอยู่ติดถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม. เป็นโครงการติดรถไฟฟ้า โดยโครงการอยู่ติดกับ BTS สะพานควาย เพียง 60 เมตร ถึงทางขึ้น-ลงสถานี ประตู 1 เดินทางไปไหนก็สะดวก โดยทำเลของสะพานควาย เป็นแหล่งชุมชนที่มีขนาดใหญ่ มีผู้คนสัญจรคึกคัก ยิ่งโครงการติดกับสถานีรถไฟฟ้าแบบนี้แล้วด้วย รอบๆโครงการเลย เต็มที่ไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย

ติดกับโครงการ เป็นโลตัส เอ็กซ์เพรส เดินไม่ถึง 10 ก้าว ซื้อของเข้าบ้านกันได้เลย นอกจากนั้นยังมีทั้งร้านค้า, ร้านอาหาร มีตั้งแต่ร้านอาหาร ที่อยู่ในอาคารพาณิชย์ จนร้านอาหารแผงลอย ซึ่งมีเแม้ค้ามาตั้งร้านตั้งแต่เช้า-เย็น เรื่องของกินบอกเลยว่า สะดวก และ หาซื้อได้ง่ายมาก ๆ ติดกับทางขึ้นสถานีสะพานควาย ยังมีร้านข้าวแกงปักษ์ใต้รสเด็ดให้ได้ซื้อทานกันอีกด้วย ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ ที่สำคัญก็จะมี บิ๊กซี สะพานควาย เดินไปได้สะดวกมาก, 7-11, รพ.เปาโล และ ใกล้กับไปรษณีย์สามเสนในจ้า

– การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว : เนื่องจากโครงการติดกับถนนใหญ่ อย่างถนนพหลโยธินเลย การเดินทางก็สะดวกดี จะใช้เส้นหลักอย่างถนนพหลโยธินก็ได้ วิ่งตรงไปก็จะผ่านสวนจตุจักร, สวนรถไฟ, เซ็นทรัล ลาดพร้าว, ยูเนียนมอลล์ หรือจะเชื่อมสู่ถนนเส้นอื่นๆ อย่าง ถนนประดิพัทธ์, ถนนกำแพงเพชร, ถนนเสรีไทย หรือจะออกปทุมธานี ไปเลยก็ได้ สะดวก เข้าเมืองมาหน่อย ก็ให้กลับรถ มาวิ่งเส้นอนุสาวรีย์ฯ คราวนี้จะไปไหนก็เชื่อมต่อได้สะดวกแล้วค่ะ

– การเดินทางโดยรถสาธารณะ : สะดวกที่สุด เพราะติด BTS สะพานควาย รวมถึงหากใครต้องการใช้บริการรถเมล์ จะมีป้ายรถเมล์อยู่ด้านหน้าไปรษณีย์สามเสนค่ะ ส่วนวินมอเตอร์ไซค์ และ TAXi ยิ่งง่ายไปใหญ่ เรียกได้จากหน้าโครงการเลย สะดวกเอามาก ๆ

– การออกแบบโครงการและวัสดุ : ตัวอาคารถูกออกแบบโดยบริษัทระดับนานาชาติ ชื่อดังอย่าง Palmer & Turner ซึ่งมีประสบการณ์ การออกแบบคอนโดดัง ๆ มามากมาย สำหรับโครงการนี้ ตัวอาคารจะใช้โทนสีเทา เทาเข้ม ตามคอนเซ็ปต์ของ Urbano ที่ต้องดูหรูหรา ทันสมัย รวมถึงต้องให้มีความเป็นส่วนตัวมากที่สุด ตามที่เค้าเครมไว้ว่า เป็น Private Residence แห่งใหม่ในย่านสะพานควาย

สำหรับโครงการนี้ เป็นอาคาร High Rise 1 อาคาร สูง 31 ชั้น มีห้องพักทั้งหมด 253 ยูนิต ก็ถือว่าไม่แออัด อยู่ในระดับกลาง ๆ ฟังก์ชั่นห้องเน้นเป็นห้องใหญ่ ครบ วัสดุใช้เกรดพรีเมียม โดยโครงการขายห้องให้ลูกค้าแบบ Fully Fitted แต่ก็เป็น Fitted ที่จัดเต็มมาก เพราะลูกค้าได้เป็นเฟอร์บิวท์อินทั้งหมด และยังเป็นเฟอร์นำเข้าจากตปท. พวกบานเปิดปิด ก็เป็นแบบ Soft Close + หน้าบาน Hi-Gloss ส่วนวัสดุที่เป็นกระจก ก็จะเป็น Tempered ทั้งหมดค่ะ สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ Cristina พร้อมติดตั้งแอร์ Wall Type ของ Daikin ให้ครบทุกห้องเลยค่ะ

– สาธารณูปโภค : ให้มาครบค่ะ เริ่มจาก Lobby ด้านล่างขนาดใหญ่ มี Mailbox ครบทุกยูนิต โถงลิฟท์ดีไซน์หรู ทันสมัย มีลิฟท์โดยสาร 3 ตัว ลิฟท์บริการ 1 ตัว ที่จอดรถประมาณ 40% จอดในช่องจิด ไม่รวมซ้อนคัน ถ้าซ้อนคันคิดเป็น 90% สระว่ายน้ำอยู่ที่ชั้น 8 หันไปทางทิศเหนือ มีพื้นที่รอบสระ ให้นั่งเล่น รับลมชมวิว สบายๆ

รวมถึง Cubic Hub ที่ชั้น 9 แบ่งเป็น พื้นที่นั่งเล่น, ห้องทำงาน, และ Minibar เก๋ ๆ ส่วนที่เหลือจะมูฟไปไว้ชั้น 31 คือ ชั้นบนสุด แบ่งเป็นฟิตเนส วิวสวนรถไฟ และ Sky Lounge แบบ Panoramic ลูกบ้านห้องไหน ที่ไม่ได้เห็นวิวเต็มตา ก็สามารถขึ้นมารับชมวิวที่ Sky Lounge เช่นเดียวกันค่ะ ในเรื่องระบบรักษาความปลอดภัย เป็นแบบ Triple Security พร้อมติดตั้งกล้อง CCTV มีรปภ. ดูแลตลอด 24 ชม. ค่ะ
Gellery




ขอขอบคุณข้อมูลจาก : thinkofliving.com
ขอขอบคุณรูปภาพจาก : thesignaturebyurbano.com

วันอังคารที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2558

โครงการคอนโดมิเนียมใหม่ สุดหรู THE ROOM SATHORN ราคา7ล้าน

โครงการคอนโดมิเนียมใหม่ สุดหรู ตั้งอยู่ที่ถนนสาทร


วันนี้ขอพาทุกท่านไปชมโครงการคอนโดใหม่ที่ตั้งอยู่บนถนนสาทรศูนย์กลางแหล่งธุรกิจสำคัญของกรุงเทพฯ นั่นคือโครงการ The Room Sathorn ของ แลนด์แอนด์เฮ้าส์ ครับ ซึ่งเป็นโครงการ High Rise คอนโดมิเนียมสูง 25 ชั้น ใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีสุรศักดิ์ (400 เมตร) และโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน สระว่ายน้ำและฟิตเนสลอยฟ้า ส่วนรายละเอียดเชิญติดตามด้านล่างครับ

รายละเอียดของโครงการ
ชื่อโครงการ : เดอะ รูม สาทร / THE ROOM SATHORN
เจ้าของโครงการ : แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ / Land & Houses
ลักษณะห้องและขนาดห้อง : 1 Bed / 46-50 sq.m. 2 Bed / 78 sq.m.
เนื้อที่ทั้งหมด : 1 ไร่ 2 งาน 73 ตร.ว.
จำนวนตึก : 1 อาคาร
จำนวนชั้น : 25 ชั้น
จำนวนห้อง : 219 ยูนิต
ที่จอดรถทั้งหมด : 80% รวมซ้อนคัน
โซน : สาทร, สีลม, บางรัก, สุรวงศ์
ขนส่งสาธารณะ : BTS – สุรศักดิ์ 400 เมตร
รถโดยสารที่ผ่าน : n/a
ที่ตั้ง : ถนนปั้น แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ
กำหนดการ : เริ่มก่อสร้าง ก.ย. 2556
ปีที่สร้างเสร็จ : คาดว่าแล้วเสร็จ ต้นปี 2559
มูลค่าราคาเริ่มต้น : 7 ล้านบาท
ราคาเฉลี่ยต่อ ตร.ม : 160,000 บาท/ตร.ม.
ค่าส่วนกลางและกองทุน : กองทุน 500 บาท, ส่วนกลาง 55 บาท
สถานที่สำคัญใกล้เคียง
1. สถานฑูตพม่า – 200 เมตร
2. วัดพระศรีมหาอุมาเทวี (วัดแขก) – 200 เมตร
3. โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน – 300 เมตร
4. โรงเรียนอัสสัมชัญพาณิชย์ – 800 เมตร
5. โรงเรียนอัสสัมชัญบางรัก – 1.0 กม.
6.Baan Silom – 500 เมตร
7. เซ็นทรัล สีลม – 500 เมตร
8. โรบินสัน บางรัก – 1.3 กม.
9. สีลม คอมเพล็กซ์ – 1.5 กม.
10. โรงพยาบาลเลิดสิน – 900 เมตร
11. โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน – 1.2 กม.
12. โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ – 250 เมตร
13. โรงพยาบาล BNH – 1.5 กม.
14. วัดยานนาวา – 1.4 กม.
15. ธนาคารกรุงเทพสำนักงานใหญ่ – 1.0 กม.
16.Empire Tower – 850 เมตร
สิ่งอำนวยความสะดวก :
– Main Lobby
– สระว่ายน้ำลอยฟ้า ระบบโอโซน
– ห้องอ่านหนังสือลอยฟ้า
– ฟิตเนสลอยฟ้า
– Digital Door Lock
– Key Card Access
– CCTV
– เจ้าหน้าที่รักษษความปลอดภัย 24 ชั่วโมง

แผนผังตัวโครงการ

ชั้น 1-5 คาดว่าจะเป็นส่วนของที่จอดรถค่ะ ส่วนที่ห้องพักอาศัยจะอยู่ในชั้น 6 เป็นต้นไป ชั้น 6-21 มีห้องอยู่ทั้งหมด 12 ห้องค่ะ  โซนด้านทิศเหนือ จะหันไปทางสีลม ด้านนั้นจะเป็นตึกแถวขายของ สูงไม่เกิน 5 ชั้นค่ะ ได้รับวิวด้านวัดแขกนะ ด้านนี้อย่าลืมว่าติดกับที่ดินเปล่า หน้ากว้างประมาณ 15 เมตร ไม่รู้ว่าอนาคตจะสร้างเป็นอะไรนะ

ส่วนด้านทิศตะวันออก ด้านหน้าโครงการฝั่งถนนปั้น ฝั่งตรงข้ามเป็นตึกแถว 4 ชั้น ที่เป็นพวก Family Mart ร้านหมอฝันค่ะ เยื้องๆ ทั้ง 2 ด้านฝั่งตรงข้ามทั้งซ้ายและขวาเป็นคอนโดมิเนียมนะ ด้านซ้ายมือเป็นคอนโด 8 ชั้น ด้านขวาเป็นคอนโดมิเนียม 22 ชั้น แต่ว่าด้านนี้ถ้ามองตรงๆ ไปก็โล่งๆ ไม่มีอะไรมาบังวิวนะ เป็นวิวเมืองเลยค่ะ

สำหรับฝั่งด้านทิศใต้ อย่างที่บอกว่า ด้านนี้มี เครน!! คือ มีอาคารสำนักงาน 7 ชั้น สร้างอยู่ค่ะ ถ้าอยู่ชั้น 6-7 นี่ก็ต้องระวังเรื่องบล็อควิวเลยนะคะ

ทิศตะวันตก ทิศนี้มองเห็นตึกกรุงเทพคริสเตียนค่ะ ตึกน่าจะสูงประมาณเดียวกัน แต่เป็นวิวเยื้องๆ ด้านซ้ายมือนะ

ด้านตะวันตกกับด้านทิศใต้จะร้อนหน่อยตอนเย็นๆนะคะ แต่ว่า อาจจะมีเงาของตึกสูงกรุงเทพคริสเตียนมาช่วยบังแสงให้บ้างค่ะ



ชั้น 23 เป็น สระน้ำค่ะ เอาไว้ด้านฝั่งถนนปั้นเลย รับวิวเมือง ค่ะ ลูกบ้านจะได้มีโอกาศมารับวิวเมืองสูงๆเหมือนๆ กันตรงนี้ค่ะ ^^ ชั้นนี้มีห้องพักอาศัยอยู่ด้วย 7 ห้องนะคะ


ชั้น 24 เป็นห้อง Fitness และก็ห้องประชุม กับห้องสมุดค่ะ ห้องที่อยู่ติดกับห้องพวกนี้ อาจจะมีเสียงดังเข้าไปบ้างนะคะ



ชั้น 25 ชั้นสูงสุดมีทั้งหมด 8 ห้องค่ะ



ลักษณะรูปแบบของห้องในโครงการ

The Room สาทร-ถนนปั้น มีแบบห้องให้เลือกทั้งหมด 3 แบบ

Type 1S



 Type 1S เป็นห้อง One-Bedroom ขนาด 46.9 ตารางเมตร เป็นลักษณะสี่เหลี่ยมผืนผ้า ด้านกว้างเป็นส่วนที่มองเห็นวิวข้างนอก เข้าไปเจอส่วนของห้องรับแขกเลย ด้านหลังเป็นครัวปิด ใช้กระจกบานเลื่อนค่ะ เปิดบานเลื่อน ไปสู่ระเบียงด้านหลัง ซึ่งจะช่วยระบายอากาศในครัวออกไปได้ด้วยค่ะ พื้นห้องครัวเป็นพื้นกระเบื้อง ซึ่งจะแตกต่างจากห้องนอนและห้องรับแขก ส่วนซ้ายมือเป็นห้องน้ำเข้าได้จากทางห้องนอนทางเดียวค่ะ เปิดประตูห้องน้ำเข้าไปอาจชนโภสุขภัณฑ์นะ ตรงนี้คิดว่าน่าจะมี Door Stopper ให้ค่ะ กั้นส่วนอาบน้ำไว้ชัดเจน

ห้องนอนอยู่ด้านในสุด เป็นบานกระจกทั้งบานรับวิวค่ะ ทำให้ได้แสงธรรมชาติจากภายนอกเข้าสู่ห้องนอนเต็มๆ มีกระจกบานกระทุ้งด้วยค่ะ ในห้องนอนมีตู้เสื้อผ้า และสามารถวางชั้นวางทีวีได้เต็มพื้นที่ผนัง วางทีวีได้กึ่งกลางที่นอนพอดี


Type 1E

Type 1E ห้องแบบ One-Bedroom ขนาด 50.1 ตารางเมตร เป็นห้องหน้ากว้าง เปิดเข้าไป ขวามือเป็นส่วนรับแขก โต๊ะทานอาหารอยู่มุมใน ติดกับชั้นวางทีวีเลย ส่วนห้องครัวคล้ายๆ กับห้อง  Type 1S  ห้องน้ำ เข้าจากทางห้องนอนเหมือนกัน แต่ดูเหมือนว่าส่วนห้องอาบน้ำจะเล็กกว่าห้องที่แล้วนะ ห้องนอนมีชั้นวางทีวีปลายเตียง แต่ว่า กระจกจะไม่ใช่กระจกเต็มบานเหมือนห้องที่แล้วนะคะ เพราะว่ามีเสาข้างๆ หัวนอนมากินพื้นที่นิดนึง

Type 2S


Type 2S แบบ Two Bedrooms ขนาด 78.5 ตารางเมตร จะเห็นว่า ห้องนั่งเล่น และห้องนอนทั้งสองห้องได้รับวิว และแสงธรรมชาติหมดเลย ซึ่งเป็นข้อดีของห้องนี่เลยแหละ ส่วนห้องครัว และห้องน้ำจัดไว้โซนเดียวกัน ตรงนี้จะง่ายในเรื่องของการวางระบบท่อต่างๆ แต่ว่า อาจจะทำให้ระบายอากาศยากนิดนึง เพราะว่า โซนนี้ติดกับผนังห้องอื่น โดยเฉพาะตรงระเบียงค่ะ ห้องนี้มีห้องน้ำ 2 ห้องนะ คือ ในบริเวณ ส่วนรับแขก 1 ห้อง และในห้อง Master Bedroom อีก 1 ห้อง


ราคาและเงื่อนไขการจอง
1. เงินจอง 1 Br. = 50,000 บาท / 2 Br. = 100,000 บาท
2. ค่าใช้จ่ายส่วนกลาง จัดเก็บล่วงหน้า 12 เดือน ณ วันที่โอนกรรมสิทธิ์
 - TheRoom RAMA , TheRoom Sukhumvit 50 บาท/ตรม/เดือน
 - TheRoom Satorn 55 บาท/ตรม/เดือน
3. เงินกองทุนส่วนกลาง 500 บาท/ตรม/เดือน ชำระครั้งเดียว ณ วันที่โอนกรรมสิทธิ์
4. พื้นที่ห้องชุดเป็นพื้นที่โดยประมาณ และรวมพื้นที่ระเบียงห้องชุดแล้ว หากพื้นที่เพิ่ม-ลดลงให้คิดราคาเพิ่ม-ลดลงในอัตราตามที่กำหนดในหนังสือจองห้องชุด
5. ผู้จองจะต้องมาทำหนังสือจองซื้อห้องชุดตามเวลาที่บริษัทฯกำหนด หากผู้จองผิดนัดผู้จองยินดีให้บริษัทฯริบเงินมัดจำจองที่ชำระแล้วทั้งหมดทันที
6. บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์การเปลี่ยนชื่่อผู้จองทำหนังสือสัญญาจะซื้อขายห้องชุดเรียบร้อยแล้ว
7. ราคาและเงื่อนไขนี้ สามารถเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งทราบล่วงหน้า

รูปภาพในโครงการ



ขอขอบคุณข้อมูลจาก : thinkofliving.com