วันจันทร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

10 ข้อผิดพลาดการซื้อบ้าน-คอนโดมือสอง

10 ข้อผิดพลาดของการซื้อบ้าน-คอนโดมือสอง


       การซื้อหา บ้าน และคอนโดมิเนียม หรือที่อยู่อาศัย มีได้ไม่กี่ครั้งในชีวิตของคนส่วนใหญ่ แม้จะเป็นบ้านและคอนโดมือสองก็ตาม เพราะต้องใช้เงินในการดาวน์ไม่น้อยเลย การผ่อนเป็นเวลานานหลายปี ทำให้ถ้าพลาดแล้ว ยากที่จะแก้ปัญหาได้ สิ่งที่คุณควรต้องทำคือ ป้องกันไว้ก่อน จากการพบเห็นประสบการณ์ของคนอื่นที่เคยพลาดมาแล้ว ซึ่งโฮมบายเออร์ไกด์ รวบรวมมาให้แล้วทั้ง 10 ข้อต่อไปนี้ครับ

1. หลงความสวยงาม มากกว่าทำเล
       คนทั่วไปมักติดกับดักเรื่องความงาม แต่เรื่องที่อยู่อาศัยแล้ว ทำเลเป็นเรื่องสำคัญกว่าความงามบ้านมือสองหลายๆหลังที่ถูกประกาศขายมักเป็นบ้านที่เคยมีคนอยู่อาศัยแล้ว เป็นแบบบ้านรุ่นเก่า สีสันอาจจะดูเก่าไปตามอายุ แต่บ้านเหล่านี้ ก็มักจะอยู่ในทำเลที่ดีกว่าบ้านใหม่ อยู่ในเมืองมากกว่า ใกล้ระบบขนส่งและสาธารณูปโภคมากกว่า ฉะนั้นอย่าได้หลงความงามเลย ว่ากันว่าอยากทำให้บ้านใหม่ ก็ทำได้เพียงแต่ทาสีใหม่เท่านั้นแหละ แต่อยากได้ทำเลใหม่นี่ต้องซื้อใหม่อย่างเดียวเลย

2. เลือกบ้านสวยแต่ชุมชนและสภาพแวดล้อมแย่
       นอกจากคุณจะซื้อบ้านเดี่ยวในท่ามกลางป่าเขา ส่วนใหญ่แล้วการที่ต้องอยู่ร่วมกับบ้านใกล้เคียงคือสิ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้  ดังนั้น อย่าลืมสำรวจบ้านอื่นๆ รอบข้าง หรือสิ่งแวดล้อมในระแวกใกล้เคียงนั้นด้วยว่ามีสภาพความเป็นอยู่อย่างไร ทั้งความสะอาดและลักษณะของเพื่อนบ้านใกล้เคียง ยิ่งคุณมีลูกหลาน ยิ่งต้องให้ความสำคัญในเรื่องนี้เป็นพิเศษ เพื่อไม่ให้เขาเกิดขึ้นมากับสิ่งแวดล้อมที่ไม่ดี นอกจากนั้น สภาพชุมชนรอบข้างที่แย่ก็อาจทำให้มูลค่าบ้านลดลง อีกทั้งในภายหลังเมื่อย้ายมาอยู่ ก็อาจต้องเจอปัญหาอีกสารพัด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเดินทางเข้าออก ความปลอดภัย และสภาพจิตใจของทุกคนในครอบครัว ซึ่งคุณควรให้วามสำคัญอันดับแรก และอย่าลืมว่า ไม่จำเป็นที่บ้านต้องราคาแพงหลายล้าน ถึงจะมีสภาพแวดล้อมที่ดีได้ บ้านราคาที่่พอจะซื้อหาได้แต่มีชุมชนที่ดียังมีอีกมาก แค่ใช้เวลาเลือกอีกซักหน่อยคุณจะพบบ้านหรือคอนโดที่สภาพแวดล้อมดีได้

3. หลีกเลี่ยงการซื้อจากนายหน้า
       หลายคนมักรังเกียจนายหน้า มักคิดว่าการซื้อบ้านมือสองผ่านนายหน้าจะทำให้มีราคาแพงกว่าปกติ เพราะราคาบ้านจะถูกบวกเข้าไปกับค่านายหน้า แต่อันที่จริงแล้ว นายหน้ามืออาชีพจะเป็นผู้ให้แนะนำผู้จะขายว่าราคาขายที่เหมาะสมควรเป็นอย่างไร ไม่สูงเวอร์หรือต่ำเกินไป ข้อดีของการซื้อผ่านนายหน้าก็คือนายหน้าจะช่วยอำนวยความสะดวกในการซื้อขายให้เราทั้งหมด ช่วยดูแลในเรื่องความเรียบร้อยของบ้าน และที่สำคัญก็คือ ซื้อผ่านนายหน้าก็ต่อราคาได้

4. อย่ารีบร้อนเกินไป ใจเย็นที่สุด
       อย่าตัดสินใจซื้อทันทีที่ชอบ จงใช้เทคนิคซื้อบ้านเพียง 1 หลัง อาจเลือกและต่อรองจากบ้านมากกว่า 1 หลัง เพื่อเลือกซื้อบ้านที่มันมีราคาและเงื่อนไขดีที่สุด ปกติแล้ว คนทั่วไปเวลาซื้อบ้านสักหลัง จะเลือกซื้อจากบ้านที่พิจารณาเพียงแค่ 1-3 หลังเท่านั้น ซึ่งทำให้คุณเสียโอกาสในการซื้อบ้านในราคาถูกไป เทคนิคที่ดีที่สุดก็คือ แม้ว่าจะเป็นการซื้อบ้านเพียงหลังเดียว แต่ก็ควรจะเลือกบ้านที่ดีที่สุด จากบ้านจำนวนมากหลังที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ให้ระลึกไว้เสมอว่ายิ่งมีบ้านให้เลือกมากเท่าใด ก็จะยิ่งเกิดประโยชน์กับผู้ซื้อมากขึ้นเพียงนั้น

5.ซื้อบ้านไม่รู้ประวัติ
       ฟังดูอาจจะดูเรื่องมากไปนิด คิดต่างที่ดีก่อนจะซื้อ ควรจะหาโอกาสไปคุยกับเพื่อนบ้านดูสักหน่อยว่าเจ้าของบ้านเดิมเป็นใคร เคยมีเหตุการณ์สยองขวัญในบ้านหรือคอนโดห้องดังกล่าวหรือไม่ ถ้าหากมารู้เอาภายหลังเมื่อซื้อมาแล้ว อาจทำให้อาศัยอยู่ไม่เป็นสุขกันล่ะคราวนี้

6. ไม่สอบถามเรื่องค่าสาธารณูปโภคค้างจ่ายจากเจ้าของเก่า
       ข้อนี้ให้พูดคุยสอบถามกันให้ชัดเจนก่อนซื้อ เพราะได้มีเหตุการณ์ที่เจ้าของคอนโดฯ เดิมซื้อมานานแล้วไม่เคยเข้าไปอยู่อาศัยเลย ค่าส่วนกลางก็ไม่เคยเสีย เวลาล่วงเลยมาหลายปีจึงตัดสินใจที่จะขาย กฎหมายกำหนดให้ผู้ขายจะต้องมีหนังสือรับรองยืนยันปลอดภาระหนี้จากนิติบุคคล หากไม่มี ต้องตกลงกันให้ชัดเจนก่อนว่าใครจะเป็นผู้รับภาระหนี้สิน  และจะต้องชำระก่อนการโอนด้วย เพื่อให้ได้หนังสือรับรองดังกล่าวมาเป็นส่วนประกอบการโอน

7. ไม่สอบถามผู้เชี่ยวชาญ และเชื่อแต่ตัวเอง
       ในการลงทุนของบ้านมือสอง ถ้าเกิดข้อสงสัยขึ้นมาเมื่อไหร่ อย่ารีบด่วนตัดสินใจเรื่องใดเรื่องหนึ่งไปเป็นอันขาด  ให้ถามหรือใช้บริการจากผู้เชี่ยวชาญเสมอ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ล้วนแล้วอยู่ใกล้ตัวท่านอยู่แล้ว เช่น ผู้ประเมินราคา ช่างก่อสร้าง เจ้าหน้าที่สินเชื่อ หรือนักกฎหมาย ฯลฯ
ที่ต้องทำอย่างนี้ ก็เพราะว่า โดยปกติแล้วต้นทุนในการใช้บริการผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ เมื่อเทียบกับความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นจากความผิดพลาดนั้น น้อยกว่ากันลิบลับอย่างเทียบกันไม่ติดเลย

8.คิดเรื่องซ่อมหลังซื้อ (จงคิดเรื่องซ่อมแล้วค่อยซื้อ)
       นี่เป็นข้อผิดพลาดอีกประการหนึ่ง ในการเลือกซื้อบ้านมือสองในปัจจุบัน ก็คือ คนส่วนใหญ่มักจะคิดเรื่องการซ่อมแซม หลังจากที่เลือกซื้อบ้านมาแล้ว ซึ่งที่ถูกต้องแล้วการซ่อมแซม ควรจะเป็นประเด็นที่ต้องมีการหยิบยกมาพิจารณาก่อนที่คิดจะซื้อบ้านเสมอ เพราะมันเป็นเรื่องสำคัญที่ช่วยให้การลงทุนของคุณนั้นมีความปลอดภัย และช่วยประหยัดงบในการลงทุน เนื่องจาก การประมาณการของต้นทุนค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมล่วงหน้า จะทำให้ทราบถึงต้นทุนที่แท้จริงในการลงทุน และสามารถหยิบยกข้อมูลเหล่านี้มาใช้ในการต่อรองราคาซื้อขายบ้านให้ต่ำลงได้เป็นอย่างดี

9. ให้ความสำคัญกับวัสดุ มากกว่าช่างซ่อมบ้าน
       เมื่อได้เลือกซื้อบ้านมือสองมาแล้ว ก็ถึงคราวซ่อมแซมและตกแต่ง  ปัญหากวนใจอันหนึ่ง ก็คือเรื่องการเลือกใช้ช่างก่อสร้างกับการเลือกใช้วัสดุก่อสร้าง ซึ่งถ้าเลือกใช้ของดีทั้งคู่ ก็จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายในจำนวนมาก ปัญหาอยู่ที่ว่า ถ้าจำเป็นที่จะต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เนื่องจากมีงบประมาณจำกัด ดังนั้นก็ควรจะให้น้ำหนักความสำคัญสิ่งไหนมากกว่ากันถึงจะดี
       กรณีแบบนี้คำตอบง่ายๆ ก็คือ ต้องเน้นที่ช่างก่อสร้างที่มีฝีมือ เป็นสำคัญ  โดยวัสดุก่อสร้างขอให้ถือเป็นเรื่องรอง ที่ต้องทำอย่างนี้เพราะช่างที่มีฝีมือ สามารถช่วยแก้ปัญหาตำหนิหรือความไม่สวยงามที่เกิดจากวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างได้ แต่ถ้าใช้ช่างที่ไม่มีฝีมือและขาดความชำนาญเมื่อไหร่ แม้จะใช้วัสดุก่อสร้างดีแค่ไหนก็ตาม ก็ไม่วายต้องเจอปัญหาเปลืองค่าใช้จ่าย และทำให้บ้านขาดความสวยงามได้

10. ไม่ดูสัญญาให้ดีก่อนตกลงซื้อขายบ้านหรือคอนโดมือสอง
       สัญญาจะซื้อจะขายเป็นเรื่องสำคัญ ระหว่างผู้จะซื้อกับผู้จะขาย ส่วนใหญ่จะดาวน์โหลดจากเว็บไซต์ต่างๆ  มากรอกรายละเอียดกันเอง ฉะนั้นต้องดูเรื่องการวางเงินมัดจำ ค่าปรับหรือเรื่องการผิดสัญญาของแต่ละฝ่ายให้ดี เพราะหากไม่รัดกุม เมื่อคนขายได้ผู้ซื้อรายใหม่ที่ให้ราคาดีกว่า เขาอาจยกเลิกสัญญาไปเสียดื้อๆ ก็ได้ และที่สำคัญ เรื่องค่าใช้จ่ายในการทำนิติกรรม  ค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ และภาษีเงินได้ ใครจะเป็นผู้ออก

คอนโดโครงการใหม่ สามารถติดตามได้ที่นี่  http://home.sanook.com/6559/
ที่มา home.co.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น